รองเท้าเหม็นอับ แก้ยังไง? บอกลากลิ่นอับตลอดกาล ด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ ใกล้ตัว

รองเท้าเหม็นอับ หนึ่งในปัญหาสุดคลาสสิคตลอดกาลสำหรับผู้ที่ต้องใส่รองเท้านานๆ

รองเท้าเหม็นอับ นอกจากจะคอยบั่นทอนความมั่นใจของท่านแล้ว จากที่เราไปสำรวจมา ยังพบว่ากลิ่นเท้า ติดอันดับหนึ่งในสามกลิ่นไม่พึงประสงค์สุดแย่ร่วมกับกลิ่นปาก และกลิ่นรักแร้

ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นนั้น มาจากเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งคอยสะสมตลอดการใช้งานของเรานั่นเอง อับเหงื่อมั่ง อะไรมั่ง สุดท้ายจึงกลายเป็นความเหม็นในแบบบที่เราพบเจอกัน
แล้วทีนี้เรารู้ได้อย่างไรว่ารองเท้าของเรานั้น อาการความเหม็นอยู่ในระดับโคม่ารึยัง

เรามาดูกันเลยครับ….

 

โดยแอดมินขอจัดระดับความเหม็นไว้สามระดับนะครับ

 

 

เหม็นเบสิค

เป็นความเหม็นเบื้องต้น ข้อบ่งชี้ของความเหม็นแบบผู้ดีคือ กลิ่นจะไม่ลอยฟุ้งขึ้นมารบกวนคนอื่น โดยเจ้าของกลิ่นจะรู้สึกถึงมันได้ในยามที่ยกรองเท้าขึ้นมา หรือ ถอดเปลี่ยนถุงเท้าเท่านั้น

เหม็นกลาง

ถ้าหากกลิ่นเริ่มที่จะโชยมาเตะจมูกคุณได้ ยามคุณถอดรองเท้าแล้วนั่งอยู่เฉยๆ คุณจะอยู่ในกลุ่มนี้แน่นอนครับ

เหม็นผีดิบโรงผุป่าช้าแตก

เหม็นขั้นสุด อับขั้นเทพ สวมเท้าใส่แปปเดียว กลิ่นเหม็นอันทรงพลังก็พร้อมที่จะลอยออกมาทำลายชั้นบรรยากาศโลก และติดเท้าคุณไปตลอดวัน เหม็นวัวตายควายล้ม

 

(พิเศษ ใช้โค้ด stinkyshoes ซื้อรองเท้ากับเราได้ในราคาพิเศษลด 150 บาท ที่นี่เลยครับ)

ซื้อรองเท้าคู่ใหม่ที่นี่เลย

ทีนี้ เมื่อเรารู้แล้วว่า รองเท้าของเรานั้นอยู่ในเกณท์ไหน…ก็ลุยกันเลยครับ รองเท้าเหม็นอับ ต้องไม่ทำร้ายเราอีกต่อไป

 

วิธีแก้ความเหม็นอับ ตามเลเวลความเหม็น

 

เหม็นเบสิค 

เนื่องจากความเหม็นระดับนี้อาจเกิดจากการที่เราขาดการดูแลรองเท้าไปบ้างเล็กน้อย ทำให้อากเกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และ กลิ่นขึ้นบ้าง ดังนั้นการแก้ปัญหา จะเป็นการดูดกลิ่นกับความชื้นออกเป็นหลัก โดยวิธีที่เราแนะนำมีอยู่สามแบบครับ

 

1. ใช้ นสพ รายวัน

(Photo credit : Vecteezy)

กองหนังสือพิมพ์เก่าๆ ที่บ้านนั่นแหละครับ นำมายัดรองเท้าไว้ ทิ้งไว้คืนนึง รองเท้าที่อับชื้น ก็จะถูกดูดความชื้นและกลิ่นบางส่วนออกไป เหมือนที่เคยแนะนำไป ทำยังไง เมื่อรองเท้าหนังเปียก : เทคนิกง่ายๆ ในการดูแลรองเท้า ในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ

2.ใช้ถุงชาช่วยดับกลิ่น 

(Photo credit : Dr.Lisa Watson)

นำถึงถุงชายัดไว้ในรองเท้าเหม็นผู้ดีของเรา ประมาณ 5-8 ถุง แล้วแต่ขนาดเท้า ปล่อยทิ้งไว้ 1-2 คืน รองเท้าเราก็จะมีกลิ่นหอมของชาแบบประเทศผู้ดี ทั้งนี้ เนื่องจากใบชาแห้งจะช่วยดูดความชื้น และยังช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย 

 

3.ใช้ชาร์โคลเข้าสู้

(Photo credit : Bon Appetit)

ใช้ถ่านไม้ ที่เรานิยมใช้ดูดกลิ่นในตู้เย็นมาแต่โบราณนี่แหละมาช่วยในการดูดกลิ่นรองเท้า โดยอาจจะใช้ถุงเท้า หรือ ถุงน่อง นำถ่านมาใส่ไว้ด้านในเช่นเดิม ทิ้งไว้ 1-2 คืน กลิ่นก็จะเบาลง จนแทบสัมผัสไม่ได้

 

ทีนี้ ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้นก็ยินดีด้วยครับ รองเท้าคุณได้รับการโปรโมทสู่ระดับ “เหม็นกลาง”

 

เหม็นกลาง 

ณ จุดนี้ รองเท้าของเราได้ผ่านการกรำศึกหนักมาพอสมควร อาจจะเกิดจากการชอบใส่รองเท้าโดยไม่ใส่ถุงเท้าบ้าง เหงื่อออกเท้าเยอะบ้าง ใส่คู่เดียวมันทั้งปีบ้าง หรืออื่นๆ ซึ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราเริ่มมีการฝังตัวแน่นในตัวรองเท้า มาตรการรับมือก็ยิ่งต้องทวีความเข้มข้นขึ้นอีก โดยทางเราแนะนำกลยุทธดังนี้ คือ

1.แป้งเย็นผู้พิทักษ์

 

(Photo credit : สุขภาพน่ารู้)

นำแป้งเย็นมาเทลงในรองเท้าให้ทั่วพื้นรองเท้า ทิ้งไว้หนึ่งคืน ตัวแป้งเองจะจับตัวกับความชื้น และยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย (โดยเฉพาะแป้งที่มีส่วนผสมของสารยับยั้งแบคทีเรีย)

2.ใช้ผิวมะนาว

 

(Photo credit : Theasianparent)

น้ำมะนาวมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการต่อต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย แต่จะให้บีบน้ำมะนาวใส่ในรองเท้าคงไม่ดีแน่ ทีนี้เราจึงจะใช้ผิวของมันแทน โดยนำมาเปลือกของมะนาวยัดลงไปในรองเท้าคู่โปรดของเราซะ สารในผิวมะนาวจะค่อยๆ ลดกลิ่งให้กับรองเท้าของเราได้ครับ ทิ้งไว้สักคืนสองคืน รู้เรื่องครับผม

 

3. จับยัดช่องฟรีซซะ

(Photo credit : BestBuy Canada)

ด้วยพลังการทำความเย็นของช่องฟรีซเซอร์นั้น จะเป็นตัวช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อ และยังทำให้เชื้อบางประเภทตายอีกด้วย โดยแนะนำให้ใส่ถุงซิบล้อก หรือ ถุงประเภทอื่นๆ แล้วปิดให้แน่นที่สุดเพื่อไม่ให้กลิ่นปนเข้าไปในตู้เย็น และสามารถนำแป้งหรือผิวมะนาวใส่ร่วมไปในกระบวนการได้

 

อย่างไรก็ตาม เราสามารถใช้สเปรย์ระงับกลิ่นเท้าเพิ่อช่วยในการยับยั้ง และดับกลิ่นของรองเท้าเหม็นอับได้ครับ ซึ่งเรามีพาร์ทเนอร์เป็นผลิตภัณท์ระงับกลิ่นเท้าและกลิ่นไม่พึงประสงค์จากแบรนด์ LUXX ซึ่งสกัดจากสารสำคัญจากธรรมชาติ เป็นตัวช่วยให้กับทุกๆ ท่านครับ ด้วยขนาดที่พกพาได้ ใช้ง่ายและปลอดภัยครับ

 

เหม็นผีดิบโรงผุป่าช้าแตก 

เหม็นระดับที่รบกวนทุกคนที่อยู่รอบข้าง ความเหม็นที่แม้แต่ตัวคุณเองยังรับไม่ได้ ต่อไปนี้คือวิธีรับมือครับ

 

คำเตือน : สำหรับรองเท้าหนังแท้ ทางเราไม่แนะนำให้ใช้วิธีด้านล่างนี้ในการกำจัดกลิ่น นอกจากว่าทางผู้ผลิตมีการแนะนำว่าทำตามได้ เนื่องจากอาจจะทำให้รองเท้าหนังเสียหายไปตลอดกาลครับ ส่วนสำหรับรองเท้าประเภทอื่นๆ โปรดตรวจสอบว่าทำได้หรือไม่ และทดลองด้วยความระมัดระวังนะครับ

 

1. ใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ

(Photo credit : สรรพยา)

ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ ยัดลงไปในรองเท้าให้ทั่วพื้นที่ภายในรองเท้า เสร็จแล้วก็ทิ้งไว้ข้ามคืน แอลกอฮอล์จะฆ่าเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ส่วนรองเท้าใหม่ของคุณก็จะมีกลิ่นแอลกอฮอลติดไปสักพักครับ

 

2.ซักเลย

(Photo credit : Currys)

ซักรองเท้าตามวิธีการที่ผู้ผลิตแนะนำ โดยอาจใส่ผ้าเข้าไปในเครื่องซักผ้าเพิ่มเติม หรือนำใส่ถุงซักผ้า เพื่อซัพพอทรองเท้าไม่ให้ถูกเหวี่ยงแรงจนเกินไป

 

แถม : กำจัดปัญหานี้ที่ต้นตอ ง่ายๆ และได้ผล

ล้างเท้าให้สะอาด 

เชื่อหรือไม่ว่า หลายๆครั้ง ต้นเหตุของกลิ่นเท้ากว่าครึ่งหนึ่งของท่านชาย เกิดจากสุขอนามัยในการล้างเท้าที่ไม่ดี ลองปรับเปลี่ยนวิธีล้างเท้าดูครับ ถูสบู่ให้สะอาด ถูทำความสะอาดซอกนิ้วเท้า หน้าเท้า หลังเท้า ให้สะอาดทั้งหมดเป็นประจำ และหมั่นทำความสะอาดเล็บเท้า

 

ใส่ถุงเท้าซะ 

หากเราต้องการให้รองเท้าเราไม่เหม็นอับ ซึ่งต้นเหตุมักจะมาจากเหงื่อที่เท้า ดังนั้น หากเราลดปริมาณเหงื่อ ที่จะซึมเข้าไปในตัวรองเท้าได้ รองเท้าก็น่าจะเริ่มมีกลิ่นช้าลงถูกไหมครับ เจ้าถุงเท้านี่แหละที่จะเป็นตัวซํบเหงื่อเราไว้ก่อนที่จะซึมเข้าไปที่ผิวรองเท้าโดยตรง เป็นการลดโอกาสที่จะเกิดการเหม็นอับในรองเท้าครับ

 

และสุดท้าย เปลี่ยนคู่ใหม่ซะเถอะ

(Photo credit : Bon Appetit)

บางครั้ง การโยนรองเท้าคู่เก่าที่รับใช้เรามาอย่างยาวนานทิ้งไป อาจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่เมื่อมาถึงจุดนี้ นั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุดครับกับการบอกลารองเท้าคู่เก่าของท่านครับ โดยอาจเลือกรองเท้าที่มีเทคโนโลยีพิเศษในการระบายอากาศ หรือเลือกเป็นวัสดุที่มาจากธรรมชาติ เช่น ใยผ้าธรรมชาติ หรือหนังแท้ ซึ่งมีคุณสมบัติระบายอากาศที่ดีกว่าวัสดุสังเคราะห์ครับ

 

————

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับวิธีง่ายๆ ในการจัดการกับ รองเท้าเหม็นอับ ทั้งหมดที่เรานำมาแนะนำ

ลองนำไปใช้กันดูนะครับ รองเท้าคู่โปรดของท่าน จะได้อยู่กับท่านไปอีกนานๆ และจะได้ไม่เป็นภาระคนที่อยู่ใกล้ๆ อีกต่อไป : )

 

และหากท่านเห็นว่าเป็นประโยชน์ สามารถกดปุ่มด้านล่างเพื่อแชร์บนเฟสบุ้กได้เลยนะครับ

 

Content story inspired by HouseholdHacker

 

 

Error: Contact form not found.

Top selling